อาหารกับยาที่ไม่ควรกินคู่กันเพราะอาจส่งผลร้ายถึงชีวิต

1. ผักคะน้าใบหยัก (Kale) กับ ยาต้านการแข็งตัวของเลือดหรือยาละลายลิ่มเลือด (warfarin)

ผักคะน้าใบหยักเป็นผักซึ่งถูกขนานนามว่าราชินีแห่งผักใบเขียวที่อุดมไปด้วยสารอาหารโดยเฉพาะวิตามินเค แต่วิตามินเคจะลดฤทธิ์ของยาที่ช่วยในการละลายลิ่มเลือด ซึ่งยาประเภทนี้ได้แก่ Warfarin, Plavix, Coumadin เป็นต้น นอกจากคะน้าใบหยักแล้วยังมีพืชใบเขียวอื่นๆที่ควรหลีกเลี่ยงด้วยเช่นกันได้แก่ บล็อคโคลี่,ผักโขม,กะหล่ำดาว เป็นต้น ดังนั้นหากเราหรือคนใกล้ชิดมีความจำเป็นที่จะต้องรับประทานยาเหล่านี้ก็ควรหลีกเลี่ยงผักจำพวกนี้ด้วย

2.กล้วย กับ ยาลดความดัน (Hypertension Drug)

ยาลดความดันจำพวก Capoten, Vasotec, Prinivil, Zestril จะส่งผลให้ระดับโพแทสเซียมในร่างกายสูงขึ้นซึ่งหากเรารับประทานยากลุ่มนี้ไปพร้อมๆกับกล้วยซึ่งเป็นผลไม้ที่มีสารโพแทสเซียมสูงอยู่แล้ว อาจจะส่งผลทำให้เกิดอัตราการเต้นของหัวใจผิดปกติหรือหัวใจเต้นถี่ขึ้น ซึ่งอาจจะเป็นอัตรายถึงชีวิตได้ ดังนั้นจึงควรหลีกเลี่ยงการใช้ยาลดความดันควบคู่กับการบริโภคอาหารที่มีโพแทสเซียมสูง

3. วอลนัท(Walnuts) กับ ยาไทรอยด์

อาหารหรือผลไม้ที่มีไฟเบอร์สูงจะป้องกันการดูดซึมของยาไทรอยด์บางจำพวกเช่น Levothroid, Levoxyl, Synthriod เมื่อยาถูกดูดซึมได้น้อยลงผู้บริโภคยาชนิดนี้อาจจะต้องเพิ่มปริมาณความเข้มข้นของยาเพื่อที่จะให้มันสามารถดูดซึมได้เท่าปกติ ทางที่ดีจึงควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีไฟเบอร์สูงเพื่อที่จะไม่ต้องเพิ่มปริมาณยา

4.เกรฟฟรุ๊ต(Grapefruit) กับ ยาลดคลอเรสเตอรอล

น้ำเกรฟฟรุ๊ตจะเพิ่มระดับปริมาณยาในกระแสเลือดของผู้บริโภคซึ่งผลที่ตามมาก็คือความเสี่ยงในการเกิดผลข้างเคียงเพิ่มขึ้น และควรหลีกเลี่ยงการดื่มน้ำเกรฟฟรุ๊ตกับยาที่ใช้รักษาความดันเลือดสูง,ยาบรรเทาความเครียด,ยารักษาอาการหัวใจเต้นผิดจังหวะ เพราะอาจจะทำให้ระดับปริมาณยาสูงเกินและเป็นอันตรายต่อร่างกาย

5.ชะเอมดำ(Black Licorice) กับ Digoxin หรือยารักษาหัวใจเต้นผิดปกติ/รักษาหัวใจล้มเหลว

ชะเอมดำจะมีสารที่ให้รสหวานที่เรียกว่า Glycyrrhizin ซึ่งเมื่อGlycyrrhizinผสมเข้ากับDigoxin ผลที่ตามมาคือการเต้นของหัวใจผิดจะหวะรุนแรง,หัวใจวาย ซึ่งส่งผลถึงชีวิต ดังนั้นผู้ป่วยที่ต้องรับประทานยาชนิดนี้ควรต้องระวังเป็นพิเศษเกี่ยวกับอาหารที่จะรับประทาน

อย่างไรก็ตามก่อนจะบริโภคยาทุกชนิดควรอ่านฉลากกำกับยาให้ถี่ถ้วนและปรึกษาเภสัชกรหรือแพทย์เพื่อให้แน่ใจว่ายาบางชนิดควรหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารบางประเภทด้วยหรือไม่

 

ที่มา: ScienceInsider
เรียบเรียง: SignorScience