ความเชื่อในเรื่องที่เหนือธรรมชาติมาจากไหน?

วิทยาศาสตร์ทั่วไป

คุณกลัวแมวดำไหม? 

คุณรู้สึกอย่างไรกับหมายเลข 13 ?

ไม่ว่าคุณจะมีความเชื่อเหล่านี้หรือไม่ อาจมีความคุ้นเคยอยู่บ้าง 

แล้วมันเกิดขึ้นได้อย่างไร?


ถึงแม้ว่าความเชื่อเหล่านี้จะไม่มีพื้นฐานมาจากข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ ความเชื่อและการปฏิบัติเฉพาะอย่างที่แปลกประหลาดเหล่านี้มีที่มา ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับสาเหตุที่เหนือธรรมชาติ

ไม่น่าแปลกใจที่ความเชื่อเหนือธรรมชาติเหล่านี้ บางอย่างมีพื้นฐานมาจากศาสนา ตัวอย่างเช่นเลข 13 มันมีความเกี่ยวข้องกับอาหารมื้อสุดท้ายในพระคัมภีร์ไบเบิล ซึ่งพระเยซูได้ร่วมรับประทานอาหารกับสานุศิษย์จำนวน 12 คนก่อนที่จะถูกจับและถูกตรึงบนไม้กางเขน ผลที่เกิดขึ้นคือการมีคน 13 คนบนโต๊ะถือว่าเป็นลางร้าย และได้ขยายผลไปสู่ตัวเลข 13 ที่หมายถึงความโชคร้าย

ความกลัวในหมายเลข 13 นี้เรียกว่า อาการกลัวเลข 13 (triskaidekaphobia) ซึ่งเมื่อพบเห็นเลข 13 แล้วพยายามหลีกเลี่ยง มันดูเป็นเรื่องปกติที่ตึกหลายแห่งในโลก ข้ามชั้นที่ 13ไปโดยที่ตัวเลขมาถึงชั้น 12 แล้วข้ามไปที่ชั้น 14 

มีความเชื่อบางส่วนที่มาจากความบังเอิญและกลุ่มคน เช่นชาวอิตาเลี่ยนหลายคนกลัวหมายเลข 17 เพราะในตัวเลขโรมัน XVII ถือว่าเป็นเลขที่มีความหมายถึงความโชคร้ายในวัฒนธรรมอิตาเลียนซึ่งสามารถ เขียนกลับเป็น “VIXI” ที่ในภาษาละตินแปลว่า “ฉันเคยมี ชีวิตอยู่” ซึ่งก็หมายถึง “ฉันตายไปแล้ว” นั่นเอง

ตัวเลขที่มีความหมายคล้ายคลึงกันนี้ คือหมายเลข 4 ในภาษาจีนกวางตุ้ง ภาษาญี่ปุ่น และเกาหลีที่ใช้ตัวเลขจากภาษาจีน

เมื่อเชื่อว่าตัวเลขบางตัวมีความหมายเป็นลางร้ายเช่นนี้ ลิฟท์ในตึกและโรงแรมนานาชาติหลายแห่งต่างเลี่ยงที่จะใช้

สำหรับทหารที่หลบอยู่ในที่กำบัง จะมีความเชื่อที่ว่าการจุดบุหรี่ 3 ตัวด้วยไม้ขีดอันเดียวกันจะทำให้เกิดเรื่องร้าย เพราะการจุดไม้ขีดนานเกินไป จะทำให้หน่วยสไนเปอร์ของศัตรูสังเกตเห็นได้

ทำไมหลายคนถึงยังยึดติดกับความเชื่อเหล่านี้?

ความเชื่อเรื่องโชคลางยังขึ้นอยู่กับพฤติกรรมทางวัฒนธรรมมากกว่าความเชื่อที่มีการไตร่ตรอง ถ้าคุณเติบโตมาพร้อมกับการที่มีคนบอกให้คุณมีความเชื่อแบบนั้น มีโอกาสที่ทำให้คุณรู้สึกไม่สบายใจ ถึงแม้ว่าคุณจะเข้าใจอย่างว่าสิ่งที่ไม่ดีนั้นจะไม่เกิดโดยใช้เหตุผล แต่การปฏิบัติตามความเชื่อเหล่านั้นดูเหมือนจะง่ายกว่าการที่คุณจะดึงดันต่อต้าน

ในการเล่นกีฬาดูเหมือนว่าการถือโชคลางจะใช้ได้ผล เมื่อคุณมีสิ่งที่คิดว่าเป็นตัวนำโชคตอนลงแข่งขัน ซึ่งเป็นเพียงเรื่องของจิตวิทยา ทำให้คุณมีความมั่นใจและเล่นดีขึ้น 

ในสถานการณ์เช่นนี้ การเชื่อถือโชคลางก็ทำให้เกิดผลดี

 

ที่มา: TED-Ed
เรียบเรียง: SignorScience