แบรี่ มาร์แชลแพทย์ผู้ทำการทดลองที่อันตรายกับตัวเองเพื่อพิสูจน์สาเหตุของโรคแผลในกระเพาะอาหาร

สุขภาพ
hubpages

มีความเข้าใจผิดที่พบอยู่บ่อยๆว่าแผลในกระเพาะอาหารเกิดจากอารมณ์ฉุนเฉียว ความเครียด และอาหารรสเผ็ด แต่แพทย์ท่านหนึ่งได้ทำการทดลองที่โด่งดังและอันตรายอย่างมากเพื่อที่จะพิสูจน์ข้อสันนิษฐานของเขา

ในปี1984 นายแพทย์ชาวออสเตเรียชื่อ แบรี่ มาร์แชล ตัดสินใจที่จะเสี่ยงทดลองหาสาเหตุของการเกิดโรคแผลในกระเพาะอาหาร เนื่องจากคนไข้ของเขาหลายคนปวดท้องอย่างรุนแรงจากโรคแผลในกระเพราะอาหาร ช่วงเวลานั้นวิธีรักษายังมีไม่มาก คนไข้หลายคนที่ทรมานกับการปวดท้องต้องไปโรงพยาบาลหรือถึงขั้นผ่าตัด เมื่อสิ้นหวังกับการหาคำตอบของโรคนี้ หมอแบรี่ได้ทำการทดลองกับตัวของเขาเอง โดยการรับประทานแบคทีเรียที่เขาได้เก็บตัวอย่างมาจากในกระเพาะของคนไข้คนหนึ่ง ไม่นานเขาก็รู้สึกปวดท้องเช่นเดียวกับคนไข้ และมีอาการคลื่นไส้อาเจียน หลังจากนั้น10วัน กล้องที่เรียกว่า เอนโดสโคป (endoscope) ถูกสอดเข้าไปดูภายในกระเพาะอาหารของหมอแบรี่ แล้วพบว่า ในท้องเขาเต็มไปด้วยแบคทีเรียชนิดเดียวกับของคนไข้ และกระเพาะอาหารนั้นมีอาการอักเสบและบวม ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการเกิดแผลในกระเพาะอาหาร

ความคิดของหมอมาร์แชลท้าทายความเข้าใจผิดที่ยังมีอยู่ถึงวันนี้ว่าแผลในกระเพาะอาหารเกิดจากความเครียด อาหาร และการมีกรดในกระเพาะมากเกินไป สิ่งที่เขาค้นพบคือแผลนั้นเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย ในช่วงเริ่มแรก ทฤษฎีของเขาถูกมองว่าเป็นเรื่องเหลวไหลในวงการแพทย์ แต่ในปี 2005 หมอแบรี่ มาร์แชลและหมอโรเบิร์ต วอเรน ได้รับเกียรติสูงสุดในการรับรางวัลโนเบลสาขาการแพทย์

กระเพาะอาหารของเรานั้นมีรูปร่างเหมือนตัว J ซึ่งมีต่อมที่สร้างฮอร์โมน และ สารเคมีหลายชนิด กระเพาะอาหารจึงถูกรุกรานอยู่ตลอดเวลาโดยเอนไซม์ที่ช่วยย่อยโปรตีน และกรดของมันเอง มันจึงสร้างสารเคลือบออกมาอย่างต่อเนื่องเพื่อป้องกันผนัง

ในช่วงกลางศตวรรษที่ 18 แพทย์ทั้งหลายคิดว่า ความเครียดอย่างเดียวที่ทำให้เกิดแผลในกระเพาะอาหาร คนไข้จึงได้รับยาลดความเครียด หรือ ยากล่อมประสาท และหมอยังแนะนำให้คนไข้ไปแช่น้ำแร่ตามสถานสุขภาพเพื่อผ่อนคลายด้วย

ความเชื่อเรื่องความเครียดเป็นสาเหตุนี้ ต่อมาได้เปลี่ยนเป็น อาหารรสเผ็ด และ ความเครียด แต่ยังไม่มีการศึกษาที่ยืนยันว่า อารมณ์ฉุนเฉียว ความกังวล และอาหารเผ็ด ทำให้เกิดแผลในกระเพาะอาหารโดยตรง

ช่วงกลางศตวรรษที่ 20 เป็นที่ยอมรับกันอย่างกว้างขวางว่ากรดไฮโดรคลอริกในกระเพาะอาหารกัดกระเพาะตัวเอง ยาลดกรดจึงถูกนำมาใช้ ซึ่งเป็นการบรรเทาแผลได้แค่ชั่วคราว เรารู้ว่าแผลในกระเพาะบางจุด สาเหตุเพราะมีกรดในกระเพาะมากเกินไป แต่มีคนไข้เพียง 1% ที่เกิดจากสาเหตุนี้จากเคสทั้งหมด

organsofthebody

หมอมาร์แชลและหมอวอเรน อธิบายว่า แบคทีเรียที่ชื่อว่า เฮลิโคแบคเตอร์ ไพโลไร(Helicobacter pylori) หรือ เอช ไพโลไร ( H.pylori ) เป็นตัวการที่แท้จริง แบคทีเรียชนิดนี้อยู่กับมนุษย์มานานกว่า 5หมื่นปี และพบในตัวมนุษย์เราถึง 50% ของประชากรโลก

ก่อนนี้เราคิดว่ากระเพาะของเราทำลายเชื้อโรคได้เพราะกรดในกระเพาะ แต่มีหลายวิธีที่ช่วยให้ไพโลไรทนกรดได้และขัดขวางการทำงานของสารเคลือบกระเพาะตามใจชอบ เช่น มันสร้างเอนไซม์ที่ชื่อว่า ยูรีเอส ( ureas ) ออกมาเพื่อป้องกันตัวเองจากกรดรอบตัวมัน แต่ละตัวสามารถสร้างโปรตีนให้ตัวเองมากกว่า 15,000 หน่วยเพื่อสร้างความแข็งแกร่ง

เรามีคำถามที่ยังหาคำตอบไม่ได้ ว่าทำไมบางคนถึงเกิดแผลในกระเพาะเฉพาะช่วงเวลา อย่างไรก็ตาม เรารู้ว่าพันธุกรรมของแต่ละบุคคล ปัญหาความเจ็บป่วยอื่นๆ ปัญหาการใช้ยา การสูบบุหรี่ และ ความหลากหลายของสายพันธุ์ไพโลไร มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมด โดยเฉพาะมีการค้นพบว่ายาที่ใช้รักษาอาการข้อบวมบางชนิด เมื่อร่วมกับไพโลไรแล้วก่อให้เกิดแผลในกระเพาะที่รุนแรง

หมอมาร์แชลลงเอยด้วยดี หลังจากที่มีชื่อเสียงจากการทดลองที่อันตราย เขากินยาฆ่าเชื้อที่คล้ายยารักษาแผลในกระเพาะอาหารในปัจจุบัน การรักษาอย่างง่ายๆด้วยยาฆ่าเชื้อจึงเป็นชัยชนะในยุคใหม่ ที่เอาชนะโรคที่ก่อนหน้านี้ต้องใช้การผ่าตัด

ผลงานของหมอมาร์แชลยังเตือนเราด้วยว่า ความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์นั้นไม่ราบรื่นเสมอไป ต้องมีความเชื่อในข้อสันนิษฐานของตัวเอง และใช้ความกล้านิดหน่อย

 

ที่มา: TED-Ed
เรียบเรียง: SignorScience