ระบบการขนส่งที่อยู่ล้ำยุคเกินกว่ายุคของพวกเขา

เทคโนโลยี

หากมีสิ่งหนึ่งที่ Hyperloop (การเดินทางด้วย Pod หรือ ห้องโดยสารในอุโมงค์สุญญากาศ ซึ่งในนั้นจะไม่มีแรงเสียดทาน ทำให้เร่งความเร็วได้ถึง 1,200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เมื่อเทียบกับเครื่องบินที่ 800 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) ของ Elon Musk ได้แสดงให้เห็น นั่นก็คือความปรารถนาที่ไม่หยุดยั้งของมนุษยชาติที่จะทำให้การขนส่งเร็วขึ้น ราคาถูกและง่ายขึ้นสำหรับทุกคน การปฏิวัติการคมนาคมไม่ได้ง่ายนัก จากจำนวนรถยนต์ที่เพิ่มขึ้น ไปถึงเครื่องบินเหนือเสียงที่พยายามลดเวลาการบินข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกให้สั้นลงครึ่งหนึ่ง ระบบการขนส่งนับไม่ถ้วนได้พยายามดิ้นรนออกจากระบบนอกยุค มันเป็นโครงการที่มีความทะเยอทะยานและมีราคาสูงซึ่งเหล่านักประดิษฐ์กล้าคิดฝันถึงระบบขนส่งที่ทันสมัยในปัจจุบัน

Image Credit: Wikimedia Commons

1776 — เรือดำน้ำของเดวิด บูชเนล (David Bushnell’s Turtle)

ในช่วงสงครามปฏิวัติ เดวิด บูชเนล (David Bushnell) นักประดิษฐ์ชาวอเมริกัน ได้สร้างเรือใต้น้ำลำแรกของโลกขึ้น เพื่อใช้ในการรบที่ขนานนามว่าอเมริกันเทอร์เทิล (American Turtle) ซึ่งสามารถขนทุ่นระเบิดใต้น้ำพร้อมผู้โดยสารได้ โครงสร้างที่เหมือนลูกโอ๊คสามารถลอยขึ้น ดำลง และเดินหน้าหลังได้ มีห้องภายในที่สามารถบรรจุน้ำเพื่อควบคุมการลอยตัวและใบพัดแนวตั้งบนหลังคาช่วยให้ลอยขึ้นสูงในน้ำได้ แต่ความพยายามทั้งหมดในการใช้สิ่งนี้ต่อกรกับราชนาวีอังกฤษล้มเหลว และการออกแบบนี้ได้ถูกเปิดเผยโดยโทมัส เจฟเฟอร์สัน (Thomas Jefferson)ในการบรรยายในปี 1787

Image Credit: nycsubway.org

1870 — รถไฟใต้ดินที่ใช้แรงอัดอากาศของบีช (Beach’s Pneumatic Underground Railway)

การทดลองใช้รถไฟใต้ดินนครนิวยอร์กที่ขนส่งโดยใช้กำลังแรงอัดอากาศซึ่งคิดค้นโดย อัลเฟรด เอลลี่ บีช (New York City subway, Beach Pneumatic Transit) เป็นสายรถไฟใต้ดินสายที่มีระยะทางยาว 95 เมตร (312 ฟุต) ซึ่งเปิดใช้ขึ้นในปี 1870 แทนที่จะใช้รถขับเคลื่อนผ่านอุโมงค์โดยใช้เครื่องยนต์แบบเดิม แนวคิดของบีชตั้งอยู่บนแนวคิดของระบบนิวเมติก (pneumatic system) ที่ใช้ อากาศเพื่อดันรถไปตามอุโมงค์ คำถามจำนวนมากยังคงมีอยู่เกี่ยวกับความเป็นไปได้ของระบบดังกล่าวในระดับที่กว้างขึ้น และไม่มีอุโมงค์อื่นที่นอกเหนือจากการสาธิตครั้งแรก ถูกสร้างขึ้นอีก

Image Credit: Sunday Post

1895-1909 — จักรยาน 2 ล้อบนทางรถไฟของฮอทชคิสส์ (The Hotchkiss Bicycle Railroad)

จักรยานโดยสารแบบพิเศษที่เรียกว่า “Bicycle Railroad” นี้ได้ถูกประดิษฐ์ขึ้นมาโดย อาเธอร์ ฮอทชคิสส์ (Arthur Hotchkiss ) ในปลายศตวรรษที่ 19 หลังจากได้พบนักลงทุนในปี 1892 และมีการสร้างทางโลหะสูง 1 เมตร (4 ฟุต) ขนาด 3.2 กิโลเมตรเพื่อเชื่อมต่อกับสมิธวิลล์ไปยังภูเขา ฮอลลี่ในรัฐนิวเจอร์ซีย์ ด้วยล้อเลื่อนขนาดใหญ่ที่ด้านหน้าและล้อด้านหลังเล็กบนรางเดียวบรรทุกผู้โดยสารได้ 2 คน สามารถเคลื่อนไปตามทางได้ ซึ่งช่วยลดเวลาในการเดินทาง โดยมีความเร็วเฉลี่ยที่ 30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง (19 ไมล์ต่อชั่วโมง) ค่าใช้บริการราคา 10 เซ็นต์ แต่ในสภาพอากาศที่เฉอะแฉะ มีโคลนมาก และสัตว์เลี้ยงในฟาร์มสัตว์เป็นอุปสรรคต่อการเดินทางที่ราบรื่น ในที่สุดความนิยมเริ่มลดลงและทางรถไฟล้มละลายไปในปี 1898

Image Credit: Wikimedia Commons

1900 —ทางเดินเท้าเคลื่อนที่ในงานแฟร์ระดับโลกที่ปารีส (The Trottoir Roulant at the Paris World’s Fair)

มันถูกสร้างขึ้นสำหรับงานเวิร์ลด์แฟร์ในปี 1900 ที่ปารีส ทางเดินเชิงกลนี้ถูกติดตั้งและเปิดให้คนทั่วไปได้ใช้ มันมีความเร็ว 10 กม. / ชม. (6 ไมล์ต่อชั่วโมง) สายพานไม้นี้ขนส่งผู้มาเยี่ยมชมในระยะทาง 1ส่วน 4 ไมล์จากปารีสโดยอยู่สูงจากพื้นประมาณ 30 ฟุต 

ด้วยทัศนียภาพระยะไกลของหอไอเฟลระหว่างที่ทางเท้าเคลื่อนไป ช่วยให้แน่ใจว่าผู้ที่เข้ามาชมงานไม่เหน็ดเหนื่อยเมื่อเข้ามาเดินชมงานที่น่าประทับใจระดับโลกนี้ และเสาค้ำที่มีความสมดุลทำให้แน่ใจได้ว่าจะไม่มีใครร่วงกลางทางในขณะเดินทาง มันสามารถเคลื่อนย้ายผู้โดยสารได้ 31,680 คนต่อชั่วโมง

Image Credit: Wikimedia Commons

1929 —เครื่องบินบนรางของเบนนี่ (Bennie Railplane)

เครื่องบินบนรางของเบนนี่เป็นระบบขนส่งแบบรางเดี่ยวจากปี 1929 ที่ใช้รางแขวนห้อยลงมาจากรางเดียวที่มีล้อใต้รางเพื่อรักษาความมั่นคง มอเตอร์ไฟฟ้าขับเคลื่อนใบพัดอยู่ที่ปลายแต่ละด้านสำหรับการเร่งความเร็ว ผู้โดยสารสามารถเดินทางด้วยความเร็วสูงสุดที่ 241 กม. / ชม. (150 ไมล์ต่อชั่วโมง) ช่วยลดเวลาการเดินทางจากเมืองกลาสโกว์ไปยังเอดินเบิร์ก ประมาณ 20 นาที ในปี1930 รางเพื่อทดสอบได้ถูกสร้างขึ้นเพื่อพิสูจน์แนวคิดนี้ แต่เนื่องจากการฟื้นตัวจากภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่และสงครามโลกครั้งที่2 ที่ประดังเข้ามา ทำให้นักประดิษฐ์เช่นจอร์จ เบนนี่ (George Bennie) ไม่สามารถหาผู้สนับสนุนทางการเงินได้

Image Credit: Histografy

1956 — รถบัสผู้โดยสาร (The Viberti Golden Dolphin)

รถบัสเพื่อการท่องเที่ยวความเร็วสูงนี้มีความสามารถในการเดินทางที่ความเร็ว 201 กม. / ชม. (125 ไมล์ต่อชั่วโมง) ด้วยเครื่องยนต์กังหันเทอร์โบ 400 แรงม้า ซูเปอร์บัสของชาวอิตาลีนี้ไม่เคยกลายเป็นความจริง แต่เป็นส่วนหนึ่งของแนวคิดเกี่ยวกับรถประจำทางที่มีมายาวนานของยุค ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อเปลี่ยนแปลงรถบัสเพื่อการท่องเที่ยวในยุคหลังสงครามโลก

Image Credit: Wikimedia Commons

1962 — รถไฟไจโรสโคปรางเดียว (Gyroscopic Monorail)

มันถูกสร้างโดยนักประดิษฐ์ชาวออสเตรเลีย,หลุยส์ เบรนแนน (Louis Brennan) ในช่วงเปลี่ยนข้ามศตวรรษ เครื่องหมุนขนาดใหญ่ 2 เครื่องที่ติดตั้งเคียงข้างกันหมุนไปในทิศทางตรงกันข้ามเพื่อรักษาระดับรางรถไฟเดี่ยว ในขณะที่การออกแบบได้รับการทดสอบกับทหาร 40คนที่โดยสารไปในปี 1909 แต่ยังต้องเอาชนะความท้าทายอีกหลายอย่าง 

Image Credit: Wikimedia Commons

1964 — รถบัสลอยฟ้า (Skybus)

รถบัสลอยฟ้า (Skybus) เป็นความพยายามที่จะปฏิวัติการขนส่งพิเศษในพิตต์สเปิร์ก 
, เพนซิลวาเนีย (Pittsburgh, Pennsylvania )ซึ่งวิ่งบนคอนกรีตเหนือถนนปกติตลอดทั้งวัน เส้นทางทดสอบการเดินรถระยะ 2.85 กิโลเมตร (1.77 ไมล์) ถูกสร้างในปี 1965 แม้แต่วอลท์ ดีสนีย์ เองก็ได้มาทดสอบใช้ แต่ผลปรากฏว่าโครงการนี้มีราคาแพงและมีความทะเยอทะยานมากเกินไปและแผนการก่อสร้างในพิตต์สเบิร์กจึงถูกทิ้งไว้

Image Credit: pb+/YouTube

1965-1974 — รถไฟแอร์โร่เทรน(Aérotrain)

แอร์โร่เทรนเป็นรถไฟของฝรั่งเศสที่พัฒนาขึ้นในช่วงกลางทศวรรษ 1960 สำหรับการเดินทางด้วยความเร็วสูงซึ่งออกแบบมาเพื่อการเคลื่อนที่ลอยตัวโดยแม่เหล็ก ซึ่งซับซ้อนและมีราคาแพง เส้นทางทดสอบถูกสร้างขึ้นทั่วประเทศฝรั่งเศสตลอดช่วงยุค 60 และยุค 70 ซึ่งเส้นทางที่ยาวที่สุดคือที่ Loiret ในฝรั่งเศส มีระยะทาง 20 กม. (12.43 ไมล์) คอมเพรสเซอร์บนเครื่องถูกติดอยู่ใต้รถไฟขณะที่เครื่องยนต์ติดอยู่ด้านหลังเพื่อควบคุมการเร่ง รถไฟเคลื่อนไปตามรางรูปตัววี แต่หลังจากที่ไม่สามารถดึงดูดนักลงทุนมาลงทุนได้ และมีความนิยมเพิ่มขึ้นในTGV (เครือข่ายรถไฟความเร็วสูงในฝรั่งเศสที่ยังคงใช้มาจนถึงทุกวันนี้) โครงการรถไฟแอร์โร่เทรนนี้ จึงถูกยกเลิกในปี
1997

 

ที่มา: Futurism
เรียบเรียง: SignorScience