ภายใน 13ปีข้างหน้า ประเทศอินเดียจะมีแต่พาหนะที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า

สิ่งแวดล้อม, เทคโนโลยี

มลพิษทางอากาศคร่าชีวิตชาวอินเดียนับ 1.2ล้านคนต่อปี เพื่อที่จะต่อสู้กับเหตการณ์นี้รัฐบาลอินเดียได้เริ่มวางแผนนโยบายที่จะกำจัดพาหนะที่ขับเคลื่อนด้วยเชื้อเพลิงฟอสซิลออกจากท้องถนน ภายในปี 2030

Veeresh Malik/Flickr
Veeresh Malik/Flickr

รถทุกคันที่วางจำหน่ายในประเทศอินเดียหลังจากปี 2030 จะเป็นรถที่ใช้พลังงานไฟฟ้าทั้งหมดซึ่งนโยบายนี้อาจจะทำให้ อุตสาหกรรมน้ำมันเกิดความกังวลใจ ในขณะที่ถูกใจนั่งสิ่งแวดล้อม ซึ่งคาดหวังไว้ว่านโยบายนี้จะช่วยลดมลพิษทางอากาศในประเทศที่เป็นสาเหตุการณ์เสียชีวิตของประชาชนกว่า1.2ล้านคน

ในขณะที่เศรษฐกิจอินเดียกำลังเติบโต ประเทศต้องนำเข้าน้ำมันกว่า 1.5 แสนล้าน ดอลล่าสหรัฐ ซึ่งเป็นอันดับที่3 ของโลก โดยการเปลี่ยนไปใช้รถพลังงานไฟฟ้าจะช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานได้ถึง 6 หมื่นล้าน ดอลล่าสหรัฐ ในปี2030 ซึ่งใน 1-3ปีแรกรัฐบาลอาจมีการช่วยเหลือทางการเงินสำหรับการเริ่มต้นนโยบายนี้

มลพิษทางอากาศเป็นปัญหาใหญ่ของประเทศอินเดีย ประชาชนกว่าล้านคนต้องเสียชีวิตเพราะการสูดดมแก๊สพิษ จากผลสำรวจของ Greenpeace พบว่าการเสียชีวิตที่เกิดจากมลพิษทางอากาศเป็นเพียงส่วนหนึ่งซึ่งน้อยกว่า การเสียชีวิตที่เกิดจากการสูบบุหรี่ นอกจากนั้นยังพบอีกว่า GDP ของประเทศลดลงถึง 3% เนื่องจากควันพิษเหล่านี้ ในปี2014 องการอนามัยโลก (WHO) รายงานว่าจากเมืองที่มีมลพิษทางอากาศมากที่สุด 20เมือง อินเดียอยู่อันดับที่ 13

ด้วยความพยายามที่จะลดมลพิศทางอากาศ ผู้นำของประเทศอินเดียได้ออกกฏว่า ตั้งแต่เดือน มกราคม 2016 ชายชาวอินเดียสามารถใช้รถได้ใน วันคู่หรือวันคี่ วันใดวันหนึ่งเท่านั้นตามที่ลงทะเบียน สำหรับผู้หญิงถูกสั่งห้ามขับทุกวัน และแน่นอนว่าการเปลี่ยนไปใช้ยานพาหนะที่ขับเคลื่นด้วยไฟฟ้าต้องส่งผลให้สิ่งแวดล้อมดีขึ้นได้อย่างแน่นอน คำนวนออกมาได้ว่า การปล่อยแก๊สคาร์บอนจะลดลงถึง 37% ในปี2030

ด้วยเหตุผลนี้ทำให้อุตสาหกรรมน้ำมันถึงกับต้องคำนวนตัวเลขประมาณการณ์ในภูมิภาคนี้ใหม่ ซึ่งแต่เดิมบริษัทยักษ์ใหญ่ BP คาดการณ์ว่าอัตราการใช้น้ำมันจะเพิ่มขึ้นทวีคูณจาก 900ล้านในปี2015 ไปถึง 1.7พันล้านในปี2035 โดยที่การเติบโตคาดว่าจะมาจากประเทศที่ไม่ใช่ องค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา หรือ OEDC (Organisation for Economic Co-operation and Development) เช่น จีน และ อินเดีย

ซึ่งปัจจุบันประเทศจีนก็พยายามที่จะยกระดับจากรถที่ใช้แก๊ส ไปสู่รถที่ใช้พลังงานทางเลือก โดยที่เป้าหมายอยู่ที่อย่างต่ำ 1 ต่อ 5 จากยอดขายประมาณการณ์ 35ล้านคัน ในปี2025 ทำให้บริษัทน้ำมันต้องจับตาดูสองประเทศนี้อย่างใกล้ชิด

 

เรียบเรียง: SignorScience