AIหรือปัญญาประดิษฐ์จะเป็นสิ่งที่ทำให้คนตกงานมากที่สุดในช่วง30ปี

เทคโนโลยี
Pixabay

มาร์ค คิวแบน นักลงทุนและนักธุรกิจสัญชาติอเมริกากล่าวเตือนภัยที่อาจจะเกิดจากการเข้ามามีบทบาทของAIในการทำงานต่างๆว่า “จะมีผู้คนอีกมากมายที่จะต้องตกงานซึ่งถูกแทนที่โดยเทคโนโลยีต่างๆและถ้าหากเราไม่เริ่มวางมาตรการดูแลปัญหานี้แน่นอนเลยว่ามันจะต้องเป็นปัญหาใหญ่ในอนาคต”

เขากล่าวเพิ่มเติมว่า”เขาไม่เคยเห็นการเปลี่ยนแปลงทางด้านแรงงานมากเท่านี้มาก่อน เรากำลังก้าวเข้าสู่การช่วงเวลาการเปลี่ยนแปลงและจะเห็นความวุ่นวายที่เกิดจากการใช้ปัญญาประดิษฐ์มากกว่าช่วง30ปี นอกจากนั้นจักรกลอัตโนมัติ(Automation)จะส่งผลทำให้คนตกงานเพิ่มมากขึ้นและเราต้องเตรียมรับมือกับมัน”

Pixabay

ทางออกของปัญหานี้คืออะไร?

คิวแบนได้ร่วมกับผู้นำในอุตสาหกรรมอื่นๆในการเตือนภัยเกี่ยวกับปัญญาประดิษฐ์นี้ บิลเกตผู้ก่อตั้งบริษัทไมโครซอฟท์กล่าวกับBBCว่า “ความชาญฉลาดของมันสูงมากจนน่ากังวล” นักวิทยาศาสตร์ สตีเฟน ฮอว์คิง เข้าร่วมการประชุมนี้ด้วยเช่นกันเขากล่าวว่า “การเพิ่มขึ้นของAIมีแนวโน้มที่จะขยายการแทนที่ตำแหน่งงานต่างๆลึกเข้าไปสู่งานบริหารระดับกลางด้วย โดยตำแหน่งงานที่จะเหลืออยู่มีเพียงตำแหน่งผู้ดูแล,ผู้ออกแบบหรือคิดสร้างสรรค์และตำแหน่งหัวหน้าเท่านั้น”

อย่างไรก็ตามในขณะการประชุมผู้เข้าร่วมประชุมจากอุตสาหกรรมเทคโนโลยีก็เห็นด้วยว่าAIนี้จะส่งผลต่อตำแหน่งงานอย่างมาก ซึ่งบิลเกตเชื่อว่าการเก็บภาษีหุ่นยนต์หรือAIพวกนี้คงจะเป็นทางออกชั่วคราวและเขาคิดว่า UBI(Universal Basic Income)น่าจะเป็นทางออกในระยะยาวที่ดีกว่า ถึงแม้ว่าสังคมอาจจะยังไม่พร้อมกับมัน มาร์คซักเกิลร์เบิร์คผู้ก่อตั้งFacebookกล่าวกับบัณฑิตจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาดว่า”เราควรศึกษาแนวคิดเกี่ยวกับUBIและทุกคนควรจะมีส่วนร่วมในการออกความคิดกับแนวคิดนี้เพื่อโอกาสใหม่ๆสำหรับอนาคต”

UBI(Universal Basic Income) คือจำนวนเงินที่ทุกๆคนได้รับในปริมาณคงที่อย่างเพียงพอต่อบุคคลซึ่งรัฐเป็นผู้แจกจ่ายรายได้ส่วนนี้ โดยไม่สนใจว่าแต่ละบุคคลจะทำงานอะไรหรือสถานะหน้าที่การงานเป็นอย่างไร

 

ที่มา: Futurism
เรียบเรียง: SignorScience